กัมมันตภาพรังสี
การค้นพบกัมมันตภาพรังสี-อองตวน อองรี เเบ็กเกอเรล
นำธาตุยูเนียนวางบนเเผ่นฟิล์ม เเล้วนำไปตากเเดด
❤ธาตุกัมมันตภาพรังสี คือ ธาตุที่มีสมบัติในการเเผ่รังสี สามารถเเผ่รังสีเเละกลายเป็นอะตอมของธาตุอื่นได้
❤กัมมันตภาพรังสี คือปรากฏการณ์ที่ธาตุสามารถเเผ่รังสีได้เองอย่างต่อเนื่อง ปรากฏการณ์นี้เป็นการเปลี่ยนเเปลงที่เกิดขึ้นภายในนิวเคลียสของไอโซโทปที่ไม่เสถียร
การเกิดกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียสของธาตุไม่เสถียรโปรตรอนเเละนิวตรอนไม่เหมาะสมหรือไม่สมดุลกัน จึงเกิดการปล่อยรังสีเพื่อให้ตัวเองเสถียร เมื่อมวลเปลี่ยนธาตุจะเปลี่ยนเเละขนาดเล็กลง
ชนิดเเละสมบัติของรังสีบางชนิดรังสีแอลฟา
เป็นนิวเคลียสของอะตอมฮีเลียม มีโปรตอนและนิวตรอนอย่างละ 2 อนุภาค มีประจุไฟฟ้า +2 มีเลขมวล 4 มีอำนาจทะทะลวงต่ำมาก กระดาษเพียงแผ่นเดียวหรือสองแผ่นก็สามารถกั้นได้ ในสนามไฟฟ้ารังสีแอลฟาเบนเข้าหาขั้วลบ สามารถวิ่งผ่านอากาศได้ระยะทางเพียง 3-5 cm เพราะเมื่อรังสีแอลฟาผ่านสาร สามารถทำให้สารเกิดการแตกตัวเป็นไอออนได้ดี จึงทำให้เสียพลังงานอย่างรวดเร็ว
รังสีบีตา
คือ อนุภาคที่มีสมบัติเหมือนอิเล็กตรอน กล่าวคือ มีประจุไฟฟ้า -1 มีมวลเท่ากับมวลของอิเล็กตรอน มีพลังงานสูง ในสนามไฟฟ้ารังสีบีตาเบนเข้าหาขั้วบวก มีอำนาจทะลุทะลวงสูงกว่ารังสีแอลฟาประมาณ 100 เท่า สามารถผ่านแผ่นโลหะบางๆ เช่น แผ่นตะกั่วหนา 1 mm แผ่นอะลูมิเนียมหนา 5 mm มีความเร็วใกล้เคียงความเร็วแสง และมีอำนาจในการไอออไนซ์น้อยกว่ารังสีแอลฟา
รังสีแกมมา
คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นมาก ไม่มีประจุและไม่มีมวล ไม่เบียงเบนในสนามไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงสุด สามารถทะลุผ่านแผ่นโลหะและเนื้อเยื่อได้แต่ถูกกั้นได้โดยคอนกรีตหรือแผ่นตะกั่วหนา โดยสามารถทะลุผ่านแผ่นตะกั่วหนา 8 mm หรือผ่านแผ่นคอนกรีตหนาๆ ได้ มีอำนาจในการไอออไนซ์น้อยมาก
ปฏิกิริยานิวเคลียสคือปฏิกิริยาการสลายตัวในนิวเคลียสของรังสีเเอลฟา,บีตา,เเกมมา
การสลายตัวของธาตุกัมมันตภาพรังสีไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็สามารถเเผ่รังสีได้ โปรตรอน+นิวตรอน ไม่สมดุลกันทำให้เกิดการเเผ่รังสีของไอโซโทปกัมมันตภาพรังสีจะเป็นสัดส่วนตรงกับจำนวนอนุภาคนิวเคลียส
ครึ่งชีวิตของธาตุกัมมันตภาพรังสีหมายถึง ระยะเวลาที่สารสลายตัวไปจนเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณเดิมใช้สัญลักษณ์เป็น t1/2 นิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีที่ไม่เสถียร จะสลายตัวและแผ่รังสีได้เองตลอดเวลาโดยไม่ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิหรือความดัน อัตราการสลายตัว เป็นสัดส่วนโดยตรงกับจำนวนอนุภาคในธาตุกัมมันตรังสีนั้น ปริมาณการสลายตัวจะบอกเป็นครึ่งชีวิตเป็นสมบัติเฉพาะตัวของแต่ละไอโซโท
Nเหลือ = ปริมาณกัมมันตรังสีที่เหลือ
T = จำนวนเวลาที่ธาตุสลายตัว
Nเริ่มต้น = ปริมาณกัมมันตรังสีเริ่มต้น
n = จำนวนครั้งในการสลายตัวของครึ่งชีวิต
ประโยชน์ของสารกัมมันตรังสี
1. การการเกษตร
- การหาอัตราการดูดซึมปุ๋ยของรากไม้ โดยใช้ฟอสฟอรัส-32 แล้ววัดปริมาณรังสีที่ใบ ดังรูปข้างล่าง
- การคัดเลือกโคนมโดยใช้ ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ซึ่งมีผลต่อปริมาณน้ำนม
- รังสีจากธาตุกัมมันตรังสีทำให้พืชกลายพันธุ์ ใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ให้ดีขึ้น เช่น การคัดพันธุ์ข้าวที่ทนน้ำ ทนศัตรูพืช ให้ผลผลิตเร็วขึ้น
- กำจัดแมลงโดยอาบรังสีทำให้แมลงตายเนื่องจากการแตกตัวเป็นไอออนของอะตอม ในเซลล์หรือหยุดการแพร่พันธุ์
2. ด้านการเเพทย์
- รังสีโคบอลต์ –60 รักษามะเร็งโดยรังสีทำลายเซลล์มะเร็ง
- ศึกษาการหมุนเวียนของโลหิต ด้วยรังสีจาก (จากเกลือแกง) หาตำแหน่งอุดตันในเส้นเลือด
- ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ด้วยรังสีจากไอโอดิน-131
- ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ด้วยรังสีจากไอโอดิน-131
3. ด้านอุตสาหกรรม
- ควบคุมความหนาของแผ่นโลหะให้สม่ำเสมออย่างต่อเนื่องในกระบวนการผลิตด้วยรังสีเบตา
- การเชื่อมโลหะ การหารอยรั่วของท่อลำเลียงน้ำมันด้วยรังสีแกมมา ช่วยประหยัด ทั้งเวลา และแรงงาน
- การเชื่อมโลหะ การหารอยรั่วของท่อลำเลียงน้ำมันด้วยรังสีแกมมา ช่วยประหยัด ทั้งเวลา และแรงงาน
4. ด้านธรณีวิทยา
- มีการใช้ C-14 คำนวณหาอายุของวัตถุโบราณ หรืออายุของซากดึกดำบรรพ์ การหาอายุวัตถุโบราณและการศึกษาทางธรณีวิทยา ใช้ธาตุกัมมันตรังสีคาร์บอน-14 ซึ่งมี ครึ่งชีวิต 5760 ปี อัตราส่วนของคาร์บอน-14 ต่อคาร์บอน-12 ในพืชและสัตว์มีค่าคงตัวขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ภายหลังสิ่งมีชีวิตตายไป อัตราส่วนนี้จะลดลง นำมาคำนวณหาอายุวัตถุโบราณได้
5. ด้านการถนอมอาหาร
- ใช้รังสีแกมมาของธาตุโคบอลต์-60 (Co–60) ปริมาณที่พอเหมาะใช้ทำลายแบคทีเรียในอาหาร จึงช่วยให้เก็บรักษาอาหารไว้ได้นานขึ้น
6. ด้านพลังงาน
- ใช้พลังงานความร้อนที่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์ในเตาปฏิกรณ์ปรมาณูของยูเรีเนียม-238 (U-238) ต้มน้ำให้กลายเป็นไอ แล้วผ่านไอน้ำไปหมุนกังหัน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
โทษของสารกัมมันตรังสี
1)เกิดการระเบิดเเละมีสารที่ยังเหลืออยู่ซึ่งเป็นอันตราย
2)ทำให้ร่างกายผิดปกติเกิดจากสาร เช่น มะเร็งผิวหนัง
การป้องกันสาร
1)สังเกตุจากป้ายเตือน
2)ใช้เวลาให้น้อยที่สุดในการเข้าไปในบริเวณที่มีสาร เเละใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด
3)อยู่ให้ห่างจากบริเวณที่เกิดการเเผ่รังสี
4)อยู่หลังกำเเพงที่มีความหนา 10 ซม.หรือลงไปในน้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น