แบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด
เออร์เนสต์ รัทเธอร์ฟอร์ด( Ernest Rutherford )ได้ทำการ ทดลอง ยิงอนุภาค แอลฟา ไป ที่แผ่น โลหะ บางๆ ในปี พ.ศ.2449 และ พบว่า อนุภาค นี้ สามารถ วิ่งผ่าน ได้เป็น จำนวน มาก แต่ จะมี เพียง ส่วนน้อย ที่เป็น อนุภาค ที่ กระเจิง ( การ ที่อนุภาค เบนจาก แนวการ เคลื่อนที่ จากที่เดิม ไปยัง ทิศทาง ต่างๆกัน ) ไปจาก แนวเดิม หรือ สะท้อน กลับ ทางเดิม
รัทเธอร์ฟอร์ดจึงได้เสนอแบบจำลองอะตอมขึ้นใหม่ว่า อะตอมประกอบด้วยประจุไฟฟ้าบวกที่รวมกันอยู่ที่ศูนย์กลาง เรียกว่านิวเคลียส ซึ่งถือว่าเป็นที่รวมมวลเกือบทั้งหมดของอะตอม โดยมีอิเล็กตรอนเคลื่อนที่รอบๆนิวเคลียส ด้วยระยะห่างจากนิวเคลียสมาก เมื่อเทียบกับขนาดของนิวเคลียส และระหว่างนิวเคลียสกับอิเล็กตรอนจึงเป็นที่ว่างเนื่องจากแบบจำลองอะตอมของรัทเธอร์ฟอร์ด ยังมีข้อบกพร่องบางประการ เช่น ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมอิเล็กตรอนจึงวนรอบนิวเคลียสได้ โดยไม่สูญเสียพลังงาน และทำไมประจุไฟฟ้าบวกจึงรวมกันอยู่ภายในนิวเคลียสได้ ทั้งๆที่มีแรงผลักเนื่องจากประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกัน จึงทำให้นักฟิสิกส์พยายามหาแบบจำลองอะตอมขึ้นใหม่
รัทเทอร์ฟอร์ดได้ทำการศึกษารังสีที่เกิดการสารกัมมันตรังสีพบว่ารังสีที่เกิดจากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีมี่อยู่3ชนิด คือ รังสีเเอลฟา รังสีบีตาเเละรังสีเเกมมา
1. รังสีเเอลฟาประกอบด้วยอนุภาคไฟฟ้าที่มีประจุบวกเป็นนิวเคลียสอะตอมของธาตุฮีเลียม มีอำนาจทะลุผ่านได้น้อยมาก ถูกกั้นด้วยกระดาษ 1-2เเผ่น(ไม่สามารถผ่านกระดาษ)
2. รังสีบีตา ประกอบด้วยอิเล็กตรอนที่มีพลังงานสูง มีอำนาจทะลุผ่านได้มากกว่ารังสีเเอลฟา ถูกกั้นด้วยเเผ่นโลหะบางๆหรือไม้หนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร (ผ่านกระดาษได้เเต่ผ่านโลหะไม่ได้)
3. รังสีเเกมมา มีสมบัติเป็นคลื่นไฟฟ้า ที่มีความยาวสั้นมากคล้ายกับรังสีเอ็กซ์ รังสีเเกมมาไม่มีทวล ไม่มีประจุ เเต่มีอำนาจทะลุผ่านที่สูงมาก ถูกกั้นด้วยเเผ่นตะกั่วหนาหรือคอนกรีตหนา 10 เซนติเมตร (ผ่านได้ทั้งหมดยกเว้นเเผ่นตะกั่วที่หนา 10 เซนติเมตรขึ้นไป)
ลักษณะเเบบจำลองของรัทเทอร์ฟอร์ด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น